คลินิกเฉพาะทางด้านเวชกรรมศัลยศาสตร์ หมอเจมส์ "

โรคริดสีดวงทวาร : อาการเริ่มต้นและวิธีสังเกต

โรคริดสีดวงทวาร : อาการเริ่มต้นและวิธีสังเกต

โรคริดสีดวงทวาร (Hemorrhoids) หรือที่มักเรียกกันว่า “ริดสีดวง” เป็นโรคที่เกิดขึ้นในส่วนของ ทวารหนัก และเป็นหนึ่งในโรคที่พบบ่อยในผู้ใหญ่ โรคริดสีดวงทวารเกิดจากการ ขยายตัวของหลอดเลือดในทวารหนัก ซึ่งสามารถทำให้เกิดอาการเจ็บปวด คัน หรือมีเลือดออก โดยเฉพาะในระยะเริ่มต้นของการเกิดโรค การรู้จัก อาการเริ่มต้น และวิธี สังเกต อาการเหล่านี้จะช่วยให้การรักษาทำได้เร็วและมีประสิทธิภาพ


🌟 โรคริดสีดวงทวารคืออะไร?

โรคริดสีดวงทวาร คือ ภาวะที่หลอดเลือดในทวารหนักหรือบริเวณรอบทวารหนักเกิดการบวมและขยายตัว เกิดจากการไหลเวียนเลือดที่ไม่ดีในบริเวณนั้น ส่งผลให้เกิด อาการอักเสบ ซึ่งอาจมีอาการเจ็บปวด หรือมีเลือดออกจากทวารหนัก

ประเภทของโรคริดสีดวงทวาร:

  1. ริดสีดวงทวารภายนอก (External Hemorrhoids): พบได้บริเวณรอบทวารหนัก มักจะมีอาการเจ็บปวดเมื่อมีการอักเสบ

  2. ริดสีดวงทวารภายใน (Internal Hemorrhoids): เกิดภายในทวารหนัก ซึ่งมักจะไม่เจ็บปวด แต่มักมีเลือดออก


🔴 อาการเริ่มต้นของโรคริดสีดวงทวาร

1. อาการเลือดออกจากทวารหนัก

  • อาการเลือดออกเป็นอาการที่พบได้บ่อย โดยมักจะเห็น เลือดสีแดงสด ปรากฏบนกระดาษชำระหลังการขับถ่าย หรือในชามน้ำส้วม

  • การเลือดออกมักจะไม่มาก และเกิดขึ้นขณะเบ่งหรือขับถ่ายอุจจาระ

2. ความรู้สึกไม่สบายหรือเจ็บปวดบริเวณทวารหนัก

  • ริดสีดวงทวารภายนอกอาจทำให้เกิด อาการบวมและเจ็บปวด ร่วมกับความรู้สึกไม่สบาย

  • อาการเจ็บปวดจะรุนแรงขึ้นเมื่อมีการขับถ่าย หรือถ้านั่งอยู่ในท่าที่กดทับบริเวณทวารหนัก

3. การรู้สึกคันที่ทวารหนัก

  • การคันรอบทวารหนักเป็นสัญญาณของการเกิดอักเสบในริดสีดวงทวาร โดยอาจเกิดจากการระคายเคืองจากมูลหรือจากการเช็ดที่แรงเกินไป

4. มีก้อนหรือตุ่มบริเวณทวารหนัก

  • ในกรณีของริดสีดวงทวารภายนอก อาจเกิด ก้อนหรือเป็นตุ่ม ที่สามารถรู้สึกได้ที่ทวารหนัก ซึ่งจะเห็นได้ชัดเมื่อมีการอักเสบหรือมีการขยายตัวของหลอดเลือด

5. อาการหนักท้องหรืออาการท้องผูกเรื้อรัง

  • การท้องผูกเป็นปัจจัยที่ทำให้การขับถ่ายยากขึ้น และทำให้เกิดความดันในทวารหนักซึ่งทำให้เสี่ยงต่อการเกิดริดสีดวงทวารได้มากขึ้น


👨‍⚕️ วิธีการสังเกตโรคริดสีดวงทวาร

การสังเกตอาการที่กล่าวถึงข้างต้นจะช่วยให้คุณสามารถรู้ได้ว่าอาจมีอาการของ โรคริดสีดวงทวาร หรือไม่ โดยเฉพาะในระยะแรกที่อาการยังไม่รุนแรงมาก:

  1. การสังเกตการเลือดออก: หากคุณพบ เลือดสด ที่ไม่เกี่ยวกับการเจ็บปวดขณะขับถ่าย อาจเป็นสัญญาณแรกของริดสีดวงทวารภายใน

  2. อาการปวดหรือคันที่ทวารหนัก: หากคุณมีอาการปวดหรือคันที่ทวารหนักในขณะที่ขับถ่าย หรือรู้สึกไม่สบายในขณะที่นั่ง จะต้องระวังอาการเหล่านี้

  3. ก้อนหรือตุ่มรอบทวารหนัก: หากคุณสามารถสัมผัสก้อนหรือหรือตุ่มบริเวณทวารหนัก อาจเป็นสัญญาณของ ริดสีดวงทวารภายนอก


เมื่อไหร่ควรไปพบแพทย์?

หากคุณมีอาการที่กล่าวถึงข้างต้น เช่น เลือดออกจากทวารหนัก หรือ เจ็บปวดอย่างรุนแรง หรือหากอาการเหล่านั้นไม่หายไปหลังจากการรักษาเบื้องต้น ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม

  • การตรวจภายใน: แพทย์จะทำการตรวจโดยการส่องกล้อง (Proctoscopy) หรือการตรวจด้วยมือเพื่อประเมินอาการ

  • การรักษาเบื้องต้น: หากเป็นริดสีดวงทวารภายนอกหรือภายในในระยะเริ่มต้น อาจได้รับการรักษาด้วยวิธี ยาทา หรือ การใช้ยารับประทาน

  • การรักษาทางการแพทย์: ในบางกรณีที่ริดสีดวงทวารรุนแรง แพทย์อาจแนะนำการทำ การผ่าตัด หรือ การรักษาแบบเลเซอร์


💡 การป้องกันโรคริดสีดวงทวาร

การป้องกันโรคริดสีดวงทวารสามารถทำได้โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางประการ เช่น:

  • การทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง: ช่วยป้องกันอาการท้องผูก ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดริดสีดวงทวาร

  • การดื่มน้ำให้เพียงพอ: การดื่มน้ำมาก ๆ ช่วยให้การขับถ่ายเป็นไปได้ง่ายขึ้น

  • การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ: ช่วยให้ระบบการย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้นและลดการท้องผูก

  • หลีกเลี่ยงการเบ่งถ่ายอุจจาระแรงเกินไป: การเบ่งถ่ายที่แรงเกินไปสามารถเพิ่มความดันในทวารหนัก ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดริดสีดวงทวาร


📝 สรุป

โรคริดสีดวงทวารเป็นปัญหาสุขภาพที่สามารถป้องกันและรักษาได้ หากรู้จักสังเกตอาการและรีบปรึกษาแพทย์แต่เนิ่น ๆ การรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง, การออกกำลังกาย, และการดูแลสุขภาพทั่วไปสามารถช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคนี้ได้ การสังเกตอาการเลือดออกหรืออาการปวดที่ทวารหนักจะช่วยให้คุณสามารถรับการรักษาได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

📞 ติดต่อเพื่อสอบถามหรือนัดหมาย
Tel. : 065-304-9539
📲 Line Official : @drjamescolo
🌐 Website : www.doctorjamescolo.com
📘 Facebook : หมอเจมส์ ศัลยกรรมลำไส้หาดใหญ่
📷 IG : @doctorjamescolo